MyGOLD Plus Investment research Dept.
ประจำวันที่ 27/09/2567
ข่าวสารทองคำประจำวัน (Fundamental Overview)
ทองคำโลกทะยานทำ All Time High ต่อเนื่อง ทำไฮสูงสุดที่ระดับ $2,685 ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในเดือนพฤศจิกายนนี้ รวมทั้งสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีความตึงเครียดหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย MyGOLD Plus Investment research Dept. คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 จากการที่กระแสเงินทุนจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำ รวมทั้งแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก ทั้งนี้ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น การเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์นี้ ซึ่งเฟดจะใช้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยในการประชุมเฟดครั้งถัดไปหากยังชะลอตัวจะเป็นแรงหนุนสลับสนุนให้เฟดลดดอกเบี้ยต่อตามที่ตลาดคาดหวัง
ในอดีต การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักส่งผลบวกต่อราคาทองคำ โดยมีเหตุผลหลักๆ ดังนี้:
ต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ลดลง: เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ผลตอบแทนจากการถือครองสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดดอกเบี้ย เช่น เงินฝากหรือพันธบัตร จะลดลง ทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง: การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนจะแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่าในสกุลเงินอื่น ทองคำซึ่งซื้อขายเป็นดอลลาร์สหรัฐ จะมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นและราคาทองคำสูงขึ้น
ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ: การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษามูลค่าของเงินลงทุน ตัวอย่างจากอดีต: ช่วงปี 1995 - 1999, 2001 - 2004, และ 2007 - 2015: ในช่วงเวลาเหล่านี้ เฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ย และราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในระยะกลางถึงระยะยาวหลังจากการลดดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างการลดดอกเบี้ยของเฟดและราคาทองคำ ไม่ใช่กฎตายตัว และอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำด้วย เช่น อัตราเงินเฟ้อ สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ดังนั้น การตัดสินใจลงทุนในทองคำควรพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ ด้าน ไม่ใช่เพียงแค่การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพียงอย่างเดียว
ข้อมูลเทคนิค(Technical Analysis)
สำหรับวันนี้ราคาทองโลกเปิดตลาดที่ระดับ 2,672 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศคาดการณ์ตอนเปิดตลาดขายออกบาทละ 41,100 บาท สำหรับมุมมองทางเทคนิคราคาทองคำโลกภาพรวมใหญ่ยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น โดยยังคงเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลาย โดยเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น-กลาง-ยาว ยังคงทำ slope (ความชัน) เป็นบวกและเรียงตัวในทิศขึ้น แนวโน้ม Sideway Up โดยฝั่งซื้อยังได้เปรียบตลาด แต่อาจระมัดระวังแรงเทขายรุนแรงตามมาได้ หลัง RSI อินดิเคเตอร์สะท้อนภาวะซื้อมาก(Overbought) ในกราฟราย 1 วัน อาจทยอยปิดทำกำไรบางส่วน สำหรับทองในประเทศจะยังคงได้รับอิทธิจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องทำให้ราคาทองฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
แนวรับ/แนวต้าน
XAU/USD
0
แนวรับ 1
0
แนวรับ 2
0
แนวต้าน 1
0
แนวต้าน 2
แนวรับ/แนวต้าน
ทองคำแท่งในประเทศ
0
แนวรับ 1
0
แนวรับ 2
0
แนวต้าน 1
0
แนวต้าน 2
สรุป ราคาทอง และปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลต่อราคาทองเมื่อวานนี้
เราได้รวบรวมข้อมูลค่าการเปลี่ยนแปลงในตลาดการลงทุนที่มีอิทธิพลต่อราคาทองดังนี้
+0 ตัน
กองทุน SPDR
ถือครองล่าสุด 877.12 ตัน
+ $0
ราคาทองโลกเมื่อวานนี้
ปิดที่ $2,672
-0 บาท
ราคาทองแท่งเมื่อวานนี้
ปิดที่ 41,150 บ.
-0
เงินบาทเมื่อวานนี้
ปิดที่ 32.38 บ.
10 เจาะทิศทางทองคำ
ทองคำนี้มองอย่างไร?
รับฟังข่าวสารและทิศทางทองคำประจำสัปดาห์ได้ก่อนใครจากนักวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยทองคำ MyGOLD Plus Investment research Dept. By Ausiris
เครื่องมือติดตามอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อติดตามการคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตที่จะส่งผลต่อ ทิศทางของสกุลดอลลาร์ และทิศทางทองคำ
0
31 JULY
0
18 SEP
0
07 NOV
0
18 DEC
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 5.50% FED DOT PLOT คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนในตลาดคาดว่าเฟดยังเชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าเดือน กันยายน นี้เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ย เป็นครั้งแรกของปี 2024 และลดครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคม ในปีเดียวกัน ครั้งละ 0.25% (เมื่อเริ่มเข้าสู่วัฏจักรลดดอกเบี้ยจะทำให้ดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่า และหนุนทองปรับตัวขึ้น จึงคาดการณ์ว่าช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้จนถึงปีหน้าทองมีโอกาสปรับตัวเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่งอีกครั้ง